top of page
  • TPD

Voices from Bangkokians “เที่ยวกรุงเทพแบบตามรอย ขาย Soft Power ให้เต็มระบบ”



เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะเคยไปเที่ยวต่างประเทศกันแบบ “ตามรอยละคร” หรือ “ตามรอยภาพยนตร์” กันมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวกรุงโซล โตเกียว หรือปารีส เนื่องจากดูในจอแล้วอยากเห็นของจริง อยากเห็นจุดที่พระนางพลอดรักกัน อยากเห็นเมืองที่เป็นฉากหลังของสงครามในหนัง


จากจุดนี้ กรุงเทพมหานครของเราก็ทำได้เช่นเดียวกัน และนี่จะเป็นการขาย Soft Power ที่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหวังอย่างเต็มระบบอีกด้วย แต่ก่อนจะทำได้นั้น ก็ต้องบริหารจัดการให้ดีก่อน


อุตสาหกรรมบันเทิงของไทย อย่าคิดว่ามีแต่คนไทยเท่านั้นที่นิยม แต่อย่างที่เห็นในหลาย ๆ ประเทศ เช่นจีน อินเดีย รวมถึงเพื่อนบ้านร่วมภูมิภาคอาเซียน ต่างก็นิยมชมชอบหนังและละครจากไทยไม่น้อย ช่วงระยะหลังที่ผ่านมา หลังจาก “ออเจ้าฟีเวอร์” นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างบุกกันมาถึงอยุธยาเพื่อชมโบราณสถาน มาดูฉากในละคร มาแต่งชุดไทยเดินกันฉุยฉาย กรุงเทพน่าจะต้องมองหาโอกาสแบบนี้บ้าง


กรุงเทพมหานครเป็นฉากหลังของความสนุกสนานทั้งบนจอเงินและจอแก้วมากมายไม่น้อยไปกว่าอยุธยา ทั้งเรื่องย้อนยุคหรือเรื่องร่วมสมัย ทำไมเราถึงไม่นำตรงนี้มาเป็นจุดขาย นี่เป็นสิ่งที่กรุงเทพมหานครสามารถร่วมมือกับทั้งชุมชนท้องถิ่น สามารถร่วมมือกับทั้งเอกชน ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตสื่อเหล่านั้นไปจนถึงห้างร้านต่างในการนำมาขายการท่องเที่ยวกรุงเทพ


หลาย ๆ คนไปญี่ปุ่น ก็จะไปตามรอยสถานที่จริงที่อยู่ในอนิเมชั่นอย่าง “Your name” ในโตเกียว หรือไปเดินเล่นตามรอยละครอย่าง “We married as a job” ที่โยโกฮาม่า ถ้าเป็นเกาหลีใต้ การเยี่ยมชมพระราชวังเคียงบกก็อาจจะได้แรงบันดาลใจจากการชมละครย้อนยุค หรือไปถ่ายรูปที่นัมซานตรงจุดที่พระเอกเดินชนกับนางเอกในละครเป็นต้น


ถ้าเป็นกรุงเทพละ เราก็สามารถเริ่มได้ง่าย ๆ ในงานภาพยนตร์คลาสสิคที่โด่งดังไปหลายประเทศอย่าง “รถไฟฟ้ามาหานะเธอ” โดยร่วมมือกับ BTS ในการบอกเล่าเรื่องราวผ่านสถานีต่าง ๆ เช่น ตามรอยเส้นทางรถไฟฟ้าที่ทำให้เหมยลี่ได้พบกับคุณลุง เป็นต้น


หรือจะเป็นการนำฉากหลังในละครคลาสสิคหลายเรื่องมานำเสนอเป็นการท่องเที่ยว เช่นอย่าง “วนิดา” ที่นำเสนอกรุงเทพยุคหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ทั้งสถานที่ในเรื่อง หรือการสนับสนุนให้คนแต่ง “เสื้อผ้ายุควนิดา” ออกมาถ่ายรูปเดินเล่นในกรุงเทพก็เป็นเรื่องน่าสนใจไม่น้อย


นี่คือการขายความเป็นกรุงเทพที่จริง ๆ แล้วแทบไม่ได้ปรุงแต่งอะไรมากมาย เพราะสื่อหลาย ๆ ชิ้นก็นำเสนอกรุงเทพในฐานะกรุงเทพที่แท้จริงอยู่แล้ว เพียงแต่หลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพ เอกชน หรือท้องถิ่น อาจจะต้องมาช่วยกันออกแบบพื้นที่และวิธีการเล่าเรื่องของหนังหรือละครนั้น ๆ ให้สอดคล้องและน่าสนใจในเชิงการท่องเที่ยว เราจะได้มีการท่องเที่ยวแบบตามรอยที่นักท่องเที่ยวต่างมายืนรอแต่งตัวถ่ายรูปกับฉากหลังในละครกับเข้าบ้างเสียที


ซึ่งแน่นอนว่าบรรดานักท่องเที่ยวก็ไม่ได้มาแค่ถ่ายรูป แต่ยังขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายในเมืองกรุงอีกด้วย ซึ่งก็จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญมาก ๆ


และไม่ใช่แค่เพียงนักท่องเที่ยวต่างชาติ คนไทยเองนี่แหละที่จะออกมาเที่ยวตามรอยเหมือนกัน หลังจากที่อาจจะสงสัยอยู่นานว่าฉากที่เราชอบอยู่ตรงไหน หรือไม่รู้ว่าใกล้บ้านเคยเป็นฉากหลังของละครเรื่องอะไร ก็จะได้รู้และออกมาสนุกสนานกันมากกขึ้น


ที่ผ่านมาเราอาจจะเคยไปอเมริกาเพื่อตามรอย “พริกขี้หนูกับหมูแฮม” หรือไปเกาหลีใต้เพื่อไปตามรอย “เพลงรักในสายลมหนาว” แต่ถึงเวลาแล้วที่เราจะหันมาสนใจเมืองกรุงของเราและเชิญชวนทุกคนจากทั่วโลกมาตามรอย “รถไฟฟ้ามาหานะเธอ” หรือตามรอย “ลอดลายมังกร” กันบ้าง


5 views0 comments

Comments


bottom of page