Voices from Bangkokians “ขนส่งพัฒนา เที่ยวกรุงเทพก็พัฒนา”

เวลานี้ ภาพการหลั่งใหลของนักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะทำให้ผู้คนไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวใจชื้นกันขึ้นมาบ้าง หลังจากที่โรคระบาดโควิด-19 โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร หนึ่งในปลายทางที่ผู้คนทั่วโลกเฝ้าใฝ่ฝันถึง

อย่างไรก็ดี การกลับมาฟื้นตัวในคราวนี้ อาจจะต้องมองถึงอนาคตระยะยาวได้แล้ว ไม่ใช่เพียงหวังกอบโกยกันเพียงอย่างเดียว อย่างเช่นที่เป็นข่าวกันล่าสุดถึงราคามหาโหดของ “แท็กซี่” ซึ่งใครเห็นราคาก็ต้องบอกเลยว่า “ขนลุก”

ดังนั้น เพื่อต้อนรับการกลับมาใหม่ของหนึ่งในต้นทางเม็ดเงินที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย เราก็ต้องคิดหาหนทางใหม่ ๆ กันด้วย

ก็น่าอุ่นใจไม่น้อย ว่าในช่วงเวลาที่หายไป หนึ่งในสิ่งที่เป็นปัญหาสำคัญของกรุงเทพมหานครอย่างการขนส่งสาธารณะที่แสนลำบากต่อนักท่องเที่ยว ก็ได้เริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างเสียทีว่ามันจะดีขึ้น สิ่งนั้นก็คือรถไฟฟ้านั่นเอง หลายต่อหลายโครงการมีวี่แววว่าใกล้จะได้เวลาที่จะเปิดให้บริการเสียที

นี่ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อผู้คนที่ใช้ชีวิตในกรุงเทพมหานครเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวอีกด้วย เพราะเส้นทางรถไฟฟ้าที่ขยายออกโดยพร้อมเพรียงกัน จะยังเป็นการเปิดประตูสู่พื้นที่ใหม่ ๆ ที่นักท่องเที่ยวเคยเข้าถึงได้ยากอีกด้วย จากเดิมที่จะท่องเที่ยวทั้งทีก็ต้องเกาะเส้นรถไฟฟ้าเดิม วนเวียนกันอยู่ไม่กี่ที่ เพราะจะไปเขตเมืองรอบนอกก็ลำบาก มาคราวนี้พวกเขาจะไปได้ไกลมากกว่าเดิม

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อรถไฟฟ้าสายสีเหลือง แดง และส้ม เปิดให้บริการ รถไฟฟ้าเหล่านี้จะสามารถนำส่งนักท่องเที่ยวไปสู่ย่านใหม่ เช่นศรีนครินทร์ มีนบุรี ดอนเมือง หรือมีนบุรีได้ และเรื่องราวจากนั้นก็ต้องวัดกึ๋นผู้บริหารกทม.แล้วว่า จะยกชูย่านเหล่านั้นอย่างไร แน่นอนว่าในแต่ละพื้นที่ของเขตเมืองกรุง ต่างซ่อนร้านรวงหรือ Tourist spots ไว้มากมายรอให้นักท่องเที่ยวเข้าถึง ถ้าเราสามารถพัฒนาพื้นที่เหล่านั้นได้ เม็ดเงินจากการท่องเที่ยวก็จะกระจายไปได้อย่างหลากหลายขึ้น สร้างงานสร้างอาชีพให้กับทุกท้องถิ่นในกทม.

จะดีแค่ไหนถ้านักท่องเที่ยวสามารถมาสนุกกับตลาดน้ำแถวคลองแสนแสบ หรือพิพิธภัณฑ์ตามเขตต่าง ๆ ของเมืองได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องมาระวังการโขกสับของขนส่งสาธารณะบางอย่างที่ราคาขูดเลือดขูดเนื้อเหลือเกิน

ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ แต่ละท้องที่ใหม่ ๆ ที่การเดินทางมันขยายออกไป ก็จะได้ขายความแตกต่างหลากหลายของกรุงเทพมหานครอีกด้วย กว่า50เขตในกรุงเทพมหานคร มีของขึ้นชื่อ มีของดี มีแหล่งท่องเที่ยว มีอาหารร้านรวงที่ต่างมีลักษณะเฉพาะตัว การยกระดับพื้นที่เหล่านั้นก็จะทำให้ของที่เคยถูกซ่อนเอาไว้ได้เวลาเฉิดฉาย

แน่นอนว่าการจัดระเบียบเมืองใหม่มีความสำคัญ อย่างที่ว่ากันไว้เมื่อคราวก่อนว่า การจัดพื้นที่ เปิดเมืองกลางคืน ปลดลิมิตอะไรหลาย ๆ อย่างก็เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำ เพราะไม่มีนักปาร์ตี้จากยุโรปคนไหนอยากโดน “ช็อตฟีล” เวลาร้านรวงกลางคืนต้องปิดเที่ยงคืน

เรื่องที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ก็คือการจัดการกับปัญหาการขนส่งอื่น ๆ ช่วงนี้มีแต่ข่าวไปในทางเสียเต็มไปหมด ตั้งแต่พี่วินมอเตอร์ไซที่ไม่น่ารัก รถเมล์หมดสภาพ หรือแท็กซี่ที่คิดราคาแพงเกินไป ในแง่หนึ่งเราก็เข้าใจว่าต้องทำมาหากินกัน แต่ก็ต้องเคารพกฎหมาย เคารพสัมมาอาชีพของตนเองด้วย เรื่องพวกนี้อย่าคิดว่าจะทำไปได้เรื่อย ๆ บรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติเขา “รีวิว” กันเสมอว่าปัญหาเช่นแท็กซี่คิดนักท่องเที่ยวแพง เป็นเรื่องใหญ่

ถ้าอยากให้การท่องเที่ยวกรุงเทพมันยั่งยืนกว่านี้ ก็ถึงเวลาที่จะต้องจัดการกันไหมเสียที รื้อกันตั้งแต่ราก จัดระเบียบคนขับ ราคา ไปจนถึงบังคับการใช้กฎหมายกวดขันกันให้มากขึ้น เอาจริง ๆ แล้วเริ่มต้นแท็กซี่จะแพงกว่า 35 บาทก็ได้ ถ้ามันทำให้เราอุ่นใจในหลาย ๆ เรื่องมากกว่าเดิม อย่าลืมว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตามแต่เวลานี้ นักท่องเที่ยวก็ต้องพึ่งพาแท็กซี่ในการเดินทางต่างบ้านต่างเมือง แต่ถ้าถึงจุดที่เมืองมันพัฒนาระบบการขนส่งไปไกลกว่านี้แล้ว เราก็ไม่อยากให้พี่ ๆ แท็กซี่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

ดูจากประเทศอย่างญี่ปุ่นก็ได้ แม้ระบบขนส่งจะเป็นเต้ยระดับโลก แต่แท็กซี่ก็ยังอยู่ได้ พาเราไปในหลาย ๆ ที่ซึ่งรถไฟพาไปไม่ได้ คิดราคาแพงได้ เพราะมันสมเหตุสมผลกับบริการ

ดังนั้น ทุกคนก็ต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน พัฒนาไปพร้อม ๆ กัน นี่เป็นเวลาสำคัญที่ต้องพัฒนาระบบขนส่ง ยกระดับพื้นที่ทั่วเมืองกรุง และแก้ปัญหาคาราคาซังของเมือง เพื่อให้กรุงเทพ ยังเป็นเมืองที่ใครอยากมาเที่ยว มาพักผ่อน มาใช้เงิน ต่อไป อย่าปล่อยไว้จนเขาเลิกคิดถึงกรุงเทพเลย

#กรุงเทพ#CITYTOGETHERBKK#ขนส่ง#รถไฟฟ้า#ขนส่งสาธารณะ#รถเมล์#แท็กซี่#ปัญหาจราจร#การท่องเที่ยว#เมือง#เศรษฐกิจ