เมื่อไม่กี่วันก่อน เกิดเหตุแผ่นดินไหวในบริเวณประเทศเพื่อนบ้าน และทำให้อาคารสูงต่ำในกรุงเทพมหานครสามารถรู้สึกได้ถึงความสั่นสะเทือน แม้จะไม่น่าตื่นตระหนกอะไรขนาดนั้น แต่ก็อาจจะทำให้เรากลับมาตั้งคำถามกันอีกครั้งว่าถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น กรุงเทพมหานครพร้อมรับมือมากน้อยแค่ไหน
แน่นอนว่า หน่วยงานสำหรับการจัดการทั้งป้องกันและแก้ไขเรื่องภัยพิบัติของกรุงเทพ คือ “สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย” ที่จัดการสารพัดปัญหา ตั้งแต่ไฟไหม้ไปจนถึงตึกถล่ม และจากช่วงที่ผ่านมา เราก็เห็นกันได้ว่า ถ้าคิดจากตัวหน่วยงานเอง ก็นับว่ามีประสิทธิภาพ มีการเตรียมตัว มีคุณภาพอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ อีกทั้งแผนงานที่มีก็นับได้ว่าไม่ได้บกพร่องอะไร
แต่คำถามคือว่า ภัยพิบัติต่อไปมันจะไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของไฟไหม้ตึกถล่ม แต่ต่อไปมันยังจะมีทั้งเรื่องน้ำท่วม แผ่นดินไหว และอื่น ๆ อีกมากมาย แม้กระทั่งปัญหาเรื่องโรคระบาดและมลพิษ หน่วยงานของเรามีความพร้อมแค่ไหน
เอาแค่เรื่องหลัก ๆ เช่น ถ้าเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงกับกรุงเทพ หน่วยงานด้านภัยพิบัติของกรุงเทพจะพร้อมมากน้อยเพียงใด มีแผนการอย่างไร จะปฏิบัติภารกิจอย่างไร ในเมื่อว่าแม้กระทั่งตัวหน่วยงานเองก็อาจจะได้รับผลกระทบของแผ่นดินไหว เช่นตึกของหน่วยงานเองถล่ม หรือเศษซากขวางทางการช่วยเหลือของหน่วยงานเอง
ที่ถามนี่ไม่ใช่อะไร แต่เป็นการถามแทนประชาชนหลาย ๆ คนว่า ตอนนี้คิดกันไว้แล้วหรือยัง ว่าจะทำอย่างไร นี่ยังรวมไปถึงว่า หน่วยงานอย่างสำนักป.ภ. ได้รับงบประมาณเพียงพอหรือไม่ มีอุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัยและจำเป็นครบถ้วนหรือไม่
เราจะทุ่มงบไปที่การศึกษา ความเป็นอยู่ และการพัฒนาเมืองอย่างเดียวไม่ได้ เราจะต้องมีงบประมาณที่เพียงพอสำหรับหน่วยงานเหล่านี้ด้วย ไม่ต้องไปไกลถึงแผ่นดินไหว เอาแค่รถดับเพลง บันได ชุดกันไฟ ออกซิเจน มีให้หน่วยงานเหล่านี้เพียงพอหรือยัง
แต่จริง ๆ จะทุ่มลงไปสนใจหน่วยงานราชการอย่างเดียวก็ไม่ได้ ต้องหันไปดูเมืองของเราด้วย เมืองของเรามันถูกบริหารจัดการเพื่อรับมือเรื่องพวกนี้หรือยัง
ข่าวก็ออกให้เห็นเป็นประจำ ว่าหลายต่อหลายครั้ง เวลาเกิดภัยพิบัติ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ เพราะผังเมืองได้กีดขวางเอาไว้ ตรอกซอกซอยแคบเกินไป หัวดับเพลิงมีไม่พอหรือถูกขวางทาง และอื่น ๆ อีกมากมายที่ได้ยินแล้วก็สะท้อนใจ
ดังนั้นอาจจะถึงเวลาที่จะต้องคุยกันเรื่องผังเมืองกันอย่างจริงจัง ให้ทุกคนอยู่ได้อย่างสุขสบายและพร้อมกับการรับมือภัยพิบัติต่าง ๆ ว่าง่าย ๆ คือกรุงเทพมันอาจจะแออัดเกินไป ต้องได้รับการจัดระเบียบเมืองกันใหม่ เพื่อให้อะไร ๆ มันดีขึ้น
นี่ยังไม่รวมถึงการเกิดขึ้นของตึกสูงทั่วเมืองกรุง อาจจะต้องถึงเวลาที่ต้องคิดให้รอบด้านในการสร้างได้แล้ว เช่น ผังอาคารมีความพร้อมในการรับมือแผ่นดินไหวที่เหมาะสมหรือไม่ หรือพื้นที่อาคารได้รับการออกแบบให้สามารถเข้าถึงได้โดยรถดับเพลงและเจ้าหน้าที่หรือไม่ เพราะว่ากันจริง ๆ หลายแห่งก็ดูเหมือนจะไม่ อาจจะได้เห็นข่าวกันแล้ว
ทั้งนี้ทั้งนั้น การเปลี่ยนแปลงของโลก กรุงเทพต้องตามให้ทัน ทั้งตัวกรุงเทพมหานครเอง และทั้งตัวเมืองทั้งเมืองเอง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเมือง เมืองอันเป็นที่รักของเรา อยากให้ทุกคนร่วมมือกัน เพื่อทั้งตัวเอง และเพื่อส่วนรวม
Comments