แม้ว่าสถานการณ์โควิด19 ในหลายประเทศ รวมถึงในประเทศไทยจะเริ่มคลี่คลายจนประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติกันได้แล้ว แต่ก็ยังคงมีหลายประเทศที่สถานการ์ยังคงไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร โดยเฉพาะประเทศที่มีประชากรขนาดใหญ่อย่างอินเดีย
โดยล่าสุดอินเดียโดนพิษโควิด19 เล่นงานอย่างนักในทุกมิติทั้งในภาคการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม จนรัฐบาลถูกวิพากษ์จารณ์อย่างหนักในการทำหน้าที่บริหารประเทศ ต้องยอมรับกันแบบนี้เลยครับว่า สถานการณ์ในอินเดียคือหนักหนาสาหัสเอามาก
อย่างที่เรารับรู้กันว่าตอนนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19ในอินเดียนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนส่งผลให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันของอินเดียขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งของโลกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นแนวโน้มยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลงอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นข้อมูลตัวเลขการเติบโตจีดีพีของอินเดียในไตรมาสแรกของปีงบประมาณใหม่ ที่ได้รับการเปิดเผยออกมาล่าสุดนั้นถือได้ว่าสร้างความตกอกตกใจกันอย่างมาก เพราะตัวเลขจีดีพีของอินเดียดิ่งลงสร้างประวัตศาสตร์ที่ด้วยตัวเลข -23.9%
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของอินเดียติดลบมากมายขนาดนี้เป็นผลมาจากมาตรการปิดเมืองในช่วงตลอดการระบาดของโควิด19 ที่ผ่านมา อันส่งผลให้ภาคบริการซึ่งเป็นภาคหลักในการขยายตัวทางเศรษฐกิจไม่สามารถทำงานได้แบบสมบูรณ์แบบ
นอกจากภาคบริการแล้ว ภาคส่วนเศรษฐกิจอื่น ๆ ก็ยังคงเผชิญกับปัญหาในหลายเรื่องซึ่งส่งผลให้การขยายตัวไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้ หรือกระทำได้เพียงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับเมื่อปี 2019 เท่านั้น
ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ศักยภาพทางเศรษฐกิจของอินเดียไม่สามารถเติบโตได้ตามการคาดการณ์ และต้องเผชิญกับการถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่การขึ้นมามีอำนาจของรัฐบาลพรรคบีเจพี
ยิ่งไปกว่าตัวเลขจีดีพีที่ติดลบอย่างมากแล้ว ดูเหมือนว่ารัฐบาลอินเดียเองกำลังเข้าสู่สภาวะวิกฤตทางด้านการคลัง เมื่อกระทรวงการคลังอินเดียออกมายอมรับว่าไม่สามารถจ่ายเงินภาษีสินค้าและบริการซึ่งเป็นการแบ่งกันระหว่างส่วนกลางกับระดับรัฐได้ตามที่เคยตกลงกันไว้
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับอินเดีย เพราะนับตั้งอินเดียมีการปฏิรูประบบภาษีสินค้าและบริการใหม่ โดยมีการเก็บในอัตราเดียว โดยรัฐบาลกลางจะทำการจัดแบ่งเงินภาษีส่วนนี้ไปยังรัฐต่าง ๆ หลังหักเข้ารัฐบาลกลางแล้ว
แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ผนวกกับรายจ่ายจำนวนมหาศาล ส่งผลให้ส่วนกลางอินเดียไม่สามารถหมุนเงินมาจ่ายส่วนแบ่งในรัฐบาลระดับรัฐได้ ซึ่งก็จะสร้างปัญหาเป็นวงจรต่อไปสำหรับรัฐบาลระดับรัฐในการหาเงินมาผลักเศรษฐกิจภายในรัฐ ที่ปัจจุบันก็ซบเซาอย่างยิ่ง
ด้วยสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้แน่นอนว่าอีกผลกระทบใหญ่ที่ตามมีคือสภาพการจ้างงานภายในประเทศของอินเดียที่ตอนนี้เรียกได้ว่ามีมนุษย์เงินเดือนจำนวนมากต้องตกงาน ราหุล คานธีประธานพรรคคองเกรสกล่าวว่าอาจมีเสียงานไปมากถึง 120 ล้านคน ซึ่งมากที่สุดในรอบ 45 ปี
ต้องมาติดตามกันต่อไปครับว่า อินเดียจะงัดมาตรการอะไรออกมาเพื่อพยุงไม่ให้เศรษฐกิจของตัวเองจบดิ่งไปมากกว่านี้
Comments