Voice of Bangkokians
“เสียงจากเด็ก คืออนาคตของกรุงเทพที่แท้จริง”
หากใครยังจำกันได้ ช่วงเดือนกันยายนของปีนี้ กทม. โดยนโยบายของผู้ว่าคนปัจจุบัน ได้จัดกิจกรรมขึ้นตลอดทั้งเดือน นั่นก็คือกิจกรรม “BKK Ranger รวมพลังเด็กเปลี่ยนเมือง” ซึ่งเป็นกิจกรรมส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองของเด็ก ส่งเสริมความสามารถ และส่งเสริมให้พื้นที่เด็กได้มีความคิดสร้างสรรค์ในเรื่องต่าง ๆ
ต้องบอกว่า โดยภาพรวมของงานนั้นน่าสนใจมาก มีการกระจายไปหลายที่ทั่วมุมเมือง และได้เห็นความเคลื่อนไหวจากเยาวชนของกทม. ว่าเวลานี้ปัญหาของพวกเขาคืออะไร พวกเขาอยากให้ผู้ใหญ่ส่งเสริมอะไร และพวกเขามีความสามารถอะไรบ้าง ซึ่งเราได้เห็นว่า เด็กและเยาวชนของกทม.มีความเคลื่อนไหวที่ต้องจับตามอง ทั้งพยายามผลักดันประเด็นทางสังคมเช่นการต่อต้านการรังแกกันในโรงเรียน ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนเรียนรู้เรื่อง “เงิน ๆ ทอง ๆ” มากขึ้น หรือการได้เห็นว่าอนาคตของชาติเหล่านี้กำลังผลักดันประเด็นเชิงสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มข้น
แต่นับจากเดือนกันยายนเป็นต้นมา ภาพที่เห็นแล้วใจชื้นว่าอนาคตของกทม.ในอีกไม่ช้า จะได้เห็นการมีส่วนร่วมของเด็กมากขึ้น กลับกลายเป็นว่าเงียบหายไป
ประเด็นสิ่งแวดล้อม ประเด็นการพัฒนา ประเด็นปัญหาสังคม พื้นที่สำหรับแสดงออก ไปจนถึงข้อเสนอนโยบายที่มีเวทีในงานให้สภาเด็กและเยาวชนกทม.ได้พบปะกับท่านผู้ว่าราชการ ไม่ได้ถูกพูดถึงอีก อย่างน้อยก็จากหัวเรือของ BKK Ranger อย่างกทม.เอง ผ่านมาเกือบ ๆ สามเดือนแล้ว เรายังไม่เห็นว่ามันถูกต่อยอดแต่อย่างใด
ในแง่หนึ่ง ก็ไม่ได้หมายถึงว่าเป็นความผิดของกทม.และผู้ว่าแต่อย่างใด เพราะก็เข้าใจว่า ปัญหาของกทม.มันล้นมือไปหมด แต่กระนั้น ก็ไม่ได้อยากให้เสียงของเด็ก ๆ ที่ร่วมกันแสดงพลังนั้นหายไป อย่างไรก็ดีตอนนี้ยังไม่เห็นเลยว่าสิ่งที่ได้แลกเปลี่ยนกับเด็ก ๆ ภายในงาน สิ่งที่เด็ก ๆ ภายในงานกำลังผลักดัน หรือพื้นที่สำหรับส่งเสริมความสามารถและพัฒนาอนาคตของชาติในกทม. ตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว
บางคนอาจจะคิดว่าที่พูดมาทั้งหมดดูจุกจิก รอหน่อยไม่ได้หรือไง แต่สิ่งที่อยากจะบอกคือ “ตีเหล็กก็ต้องตีตอนมันร้อน” ดังนั้นการขยับตัวของภาครัฐซักเล็กซักหน่อยให้สิ่งที่เด็ก ๆ ทุกคนผลักดันยังได้เห็นแสงสว่าง ก็น่าจะดีกว่าไม่ใช่หรือ
ทำไมต้องเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็น? ก็เพราะว่าผู้บริหารกทม.ปัจจุบันเป็นความหวัง เป็นสิ่งที่คนกรุงเทพจำนวนไม่น้อยรอคอยมานาน เพราะเหตุนั้นก็จึงอยากเห็นว่า การที่ผู้บริหารกทม.ย้ำนักย้ำหนาถึงพื้นที่และการผลักดันคนรุ่นใหม่ให้มีส่วนร่วม มันจะเกิดขึ้นจริง ไม่ใช่เป็นเพียงกิจกรรมที่ “จัดเพื่อให้ได้จัด”
เด็กและเยาวชนคืออนาคตของกรุงเทพที่แท้จริง ไม่มีใครปฏิเสธเรื่องนี้ได้ ดังนั้นการฝูมฝักพวกเขาตั้งแต่วันนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก หลายต่อหลายแรงผลักดันควรจะได้มีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตของเมืองและของตัวเองอย่างแท้จริง เช่นสภาเด็กและเยาวชนของกทม. ควรได้มีปากมีเสียงในการร่วมกำหนดนโยบายมากกว่าที่เป็นอยู่
พูดก็พูดเถอะ ทุกวันนี้ใครรู้บ้างว่า สภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานครทำอะไรบ้าง และสมาชิกสภามาจากไหน หมดวาระแล้วไปไหน ทำอะไรอยู่
เมืองในอนาคตจะต้องเป็นเมืองของเด็กและเยาวชนทุกวันนี้ จะต้องเป็นเมืองที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัย วิถีชีวิต เศรษฐกิจ และสังคมของพวกเขาเหล่านั้น จะต้องถูกพัฒนาไปพร้อม ๆ กับการเติบโตของคนรุ่นหลังอย่างพวกเขา ดังนั้นพวกเขาก็ควรได้ปูทางอนาคตของตัวเองตั้งแต่วันนี้ เมื่อผู้บริหารกทม.ปัจจุบันได้เปิดโอกาสมาแล้ว ก็อยากให้พาพวกเขาไปต่อ อย่าเพียงแค่เปิดประตูไว้ แต่ทางข้างในยังมืดเหมือนเดิม
ในเวลาข้างใน อนาคตของมหานครจะเป็นอย่างไร ใครจะไปตัดสินชะตานี้ได้ นอกจาก “เด็กและเยาวชน” ของพวกเรา
Comments