19 พ.ย. 65 ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “กรุงเทพฯ เมืองหลวง ปรับเปลี่ยนหรือโยกย้าย” ในงานเสวนาระดมความคิดเพื่อหาทางรับมือ “ย้ายเมือง หรือ อยู่ต่อ หากกรุงเทพฯ ต้องจมน้ำ” ณ ห้องประชุมริมน้ำ ชั้น 1 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) เขตพระนคร โดยมีประเด็นที่น่าสนใจโดยสรุปว่า
โจทย์ของการย้าย กทม. อาจมีหลายด้านที่นอกเหนือจากน้ำท่วม เช่น เมืองทรุด น้ำทะเลหนุน รถติด การจราจร คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม มลพิษ ที่อยู่อาศัยราคาแพง หรือผังเมืองไม่ดี แต่ทว่าสำหรับปัญหาน้ำท่วมแล้วไม่เพียงเป็นประเด็นทางภูมิศาสตร์ของ กทม. เท่านั้น แต่ยังมีประเด็นในเรื่องวินัยของคน โดยเฉพาะการทิ้งขยะลงในแหล่งน้ำที่ส่งผลกระทบต่อการระบายน้ำเป็นอย่างมาก ซึ่งหากย้ายเมืองไปที่อื่นแต่ยังมีการทิ้งขยะแบบนี้ ปัญหาก็จะเหมือนเดิม
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยังกล่าวต่อไปว่า “ส่วนปัญหาอื่น ๆ ที่สำคัญยิ่งกว่าน้ำท่วม อาทิ การกระจุกตัวของแหล่งงานใจกลางเมือง มูลค่าที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองแพง คนจึงมักจะซื้อบ้านนอกเมืองแล้วเดินทางเข้ามาทำงานในเมือง ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาจราจรแออัดตามมา การแก้ปัญหา แทนที่จะย้ายเมือง กระจายเมืองได้หรือไม่ กระจายงานออกด้านนอกมากขึ้นได้หรือไม่ เป็นต้น”
“ความหมายของเมืองไม่ใช่สิ่งก่อสร้าง แต่เมืองคือคน” ผู้ว่าฯ ชัชชาติกล่าว น่าสนใจว่าเมื่อกลับไปพิจารณานโยบายต่าง ๆ จะเห็นได้ว่า “เมื่อเมืองคือผู้คน” การทำให้ผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมในเมืองได้มากขึ้นและสะดวกขึ้น เมืองจึงจะสามารถเป็นสิ่งที่ตอบสนองความต้องการของผู้คนได้ และเมื่อเมืองตอบสนองได้รวดเร็วขึ้น การแก้ปัญหาต่าง ๆ ก็จะเป็นไปอย่างรวดเร็วตามไปด้วย
Comments