ตอนสุดท้ายนี้ทีมงาน City Together ชวนพี่เตชิต ชาวบางพรหม หัวหน้าศูนย์ขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะกรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ มองไปยังภาพอนาคตของ กทม. และสิ่งอยากฝากถึงชาว กทม. และผู้บริหารของ กทม.
.
พี่เตชิตกล่าวว่า การที่เรามาทำ “เครือข่ายปลุกกรุงเทพฯ” อันนี้เป็นกระบวนการที่สร้างสรรค์ ทั้งนี้ หากเป็นไปได้กรุงเทพมหานครควรมีการทำกระบวนการสภากาแฟ (World Café) หรือกระบวนการใด ๆ ก็ตามที่ผู้ว่าฯ ชัชชาติได้หาเสียงเอาไว้ เพื่อให้ประชาชนได้สามารถเสนอความคิดเห็นและ กทม. ก็รับนำมาทำต่อได้เลย
.
พี่เตชิตยังพูดถึงการสนทนากับผู้ว่าฯ ชัชชาติเกี่ยวกับ “พลัง 3 ส่วน” ที่มีความสำคัญในการพัฒนากรุงเทพมหานคร ได้แก่
.
พลังส่วนแรก คือ “พลังของประชาชน” ที่จะต้องมาจากการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นพลังของการมีส่วนร่วมแบบจัดตั้ง โดยจะต้องเป็นพลังของการมีส่วนร่วมแบบที่ประชาชนมีการพูดคุยกันถึงว่าอะไรคือความต้องการ อะไรคือปัญหา จะได้เข้ามาเป็นส่วนร่วมได้
.
พลังส่วนที่สอง คือ “พลังของรัฐ” รัฐจะต้องให้เกียรติและเอาจริงเอาจังกับเรื่องของความคิดเห็นของประชาชน กล่าวคือ เมื่อประชาชนสะท้อนอะไรออกมา ไม่ใช่ว่า (รัฐ) ไปโต้กลับหรือว่าไปมีหน้าที่ตอบ รัฐต้องมีหน้าที่เอาความคิดเห็นของประชาชนเหล่านั้นมาถักทอและแปลงเปลี่ยนเป็น Action Plan ว่าจะทำอะไรกันต่อไป ให้ประชาชนเห็นเชิงประจักษ์หรือตอบประชาชนด้วยสิ่งที่รัฐลงมือทำเอง
.
พลังส่วนสุดท้าย คือ “พลังของเทคโนโลยี” ใช้พลังของเทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ กล่าวคือ พลังของเทคโนโลยีจะช่วยขยายและเสริมสร้างความเข้าใจเพิ่มขึ้น อย่างเช่นการช่วยขยายในสิ่งที่เราทำดีอยู่แล้ว และยังสร้างความเข้าใจให้ผู้คนต่าง ๆ ได้เห็นภาพเพิ่มขึ้น
.
มากไปกว่านั้น พี่เตชิตยังทิ้งท้ายที่เป็นการฝากถึงกรุงเทพฯ ว่า “ท่านเป็นผู้ว่าฯ แห่งความหวัง บรรยากาศ เจตนารมณ์ร่วมของสังคม กำลังมีความหวัง... curve กำลังขึ้น... ทุกคนพร้อมที่จะทำงานร่วมด้วย ทีนี้โอกาสของการที่จะถักทอความหวังเหล่านี้ให้กลายเป็นสนามพลังในการที่จะทำงานให้กรุงเทพดีขึ้น มันพร้อมและก็เพียงพอแล้วหรือยัง ถ้ามันพร้อมและมีการจัดการพวกนี้อยู่แล้ว และก็เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาทำงานได้อยู่แล้ว... ก็ต้องรีบทำ”
Comentários