“ฝุ่นจิ๋ว” หรือ PM2.5 ไม่ใช่เรื่องจิ๋ว ๆ เล็ก ๆ ตามชื่อ หรือจะเป็นปัญหาเฉพาะแต่เพียงเมืองใหญ่ ๆ ที่มีคนใช้ชีวิตเยอะ ๆ อย่าง กทม. เท่านั้น แต่ฝุ่นจิ๋วยังเป็น “วาระแห่งชาติ” ด้วย โดยมีชื่อเต็มว่าวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” และถือเป็นวาระแห่งชาติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 ซึ่งนับจนถึงปัจจุบันก็ประมาณ 4 ปีแล้วของการเป็นวาระแห่งชาติสำหรับเรื่องนี้
เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในกรุงเทพมหานคร ได้ติดตามความคืบหน้าตามแผนวาระแห่งชาติ โดยคาดหมายว่าวันที่ 5 ก.พ. สถานการณ์ฝุ่นในพื้นที่ กทม. จะดีขึ้น
สำหรับการดำเนินงานตามแผนดังกล่าวก็ยังประกอบไปด้วยหน่วยงานหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นการทำฝนหลวงในพื้นที่ต่างจังหวัดซึ่งอาจทำให้มีฝนตกในพื้นที่ กทม. บางส่วน การฉีดละอองน้ำตามจุดต่าง ๆ หรือการใช้รถที่ปล่อยไอเสียน้อยลงกว่าเดิม การกวดขันวินัยจราจรเพื่อลดการติดขัด ตลอดจนทำความสะอาดในไซต์ก่อสร้าง และคืนพื้นผิวการจราจรในพื้นที่ที่ก็สร้างแล้วเสร็จ เป็นต้น
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยังกล่าวว่า “อยากให้ประชาชนได้ทราบถึงสถานการณ์และกำจัดต้นตอฝุ่นให้ได้มากที่สุด เช่น Work from Home ที่ทำให้ปัญหาการจราจรลดน้อยลงปริมาณฝุ่นก็จะน้อยลงตามด้วย โดยในตอนนี้ฝุ่นไม่ได้หนักแค่เพียงในกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่หนักตั้งแต่ภาคกลางถึงภาคเหนือ ส่วนหนึ่งคาดว่าสาเหตุเกิดจากการเผาชีวมวล ดังนั้นจึงขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง”
ขณะที่อีกด้านหนึ่งเมื่อวันที่ 1 ก.พ. นี้ กทม. ยังได้ขยายเวลาให้บริการคลินิกมลพิษทางอากาศทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลสิรินธร และโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ โดยจะเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. และยังสั่งการให้หน่วยสาธารณสุขเคลื่อนที่ออกปฏิบัติการเชิงรุกดูแลประชาชนในช่วงสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 มีค่าสูงเกินมาตรฐานที่กำหนดอีกด้วย
ดูเพิ่มเติมใน
“ผนึกกำลังทุกหน่วยงาน เดินหน้าตามแผนวาระแห่งชาติ เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นให้ลดลงในระยะยาว” เข้าถึงข้อมูลที่ https://pr-bangkok.com/?p=55008
“กทม. ขยายเวลาให้บริการคลินิกมลพิษทางอากาศทั้ง 5 แห่ง พร้อมออกหน่วยสาธารณสุขเชิงรุก รับมือค่าฝุ่น PM2.5 เน้นดูแลกลุ่มเปราะบางในพื้นที่” เข้าถึงข้อมูลที่ https://pr-bangkok.com/?p=53566
Comments